ว่าด้วยเรื่องผิวหน้าหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ เรียกได้ว่าเป็นปัญหากวนใจของคนทุกเพศทุกวัยเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีอายุมาก ความหย่อนคล้อยก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเพราะผิวหนังและกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแอลง ส่วนคนที่อายุยังน้อยนั้นก็มีปัญหาความหย่อนคล้อยได้เช่นกัน อาจเกิดจากพันธุกรรม การใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ดี หรือขาดการออกกำลังกาย บทความนี้จะมาพูดถึงวิธีแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยด้วย 7 วิธียกกระชับใบหน้าที่ดีที่สุด มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
สารบัญ
1. ออกกำลังกายบริหารเหนียง
การออกกำลังกายบริหารเหนียงจะช่วยกระชับใบหน้าได้ เพราะจะช่วยเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ใต้คาง และทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใต้คางแข็งแรงขึ้นซึ่งส่งผลให้ผิวกระชับขึ้นได้นั่นเอง มาดูเทคนิคบริหารเหนียงกันว่ามีท่าอะไรบ้างและทำอย่างไรบ้าง
ท่าออกกำลังกายยกกระชับหน้า ลดเหนียงที่แนะนำ
ท่ายืดกรามหรือดันกราม เป็นท่าที่ช่วยยืดกล้ามเนื้อใต้คาง เริ่มต้นจากการเงยหน้ามองเพดาน แล้วพยายามดันกรามด้านล่างให้ได้มากที่สุดจนรู้สึกตึง ทำท่าค้างไว้ประมาณ 10 วินาที แล้วค่อยคลายความตึงกลับสู่ท่าหน้าตรงปกติ ทำท่านี้ 10 ครั้ง สามารถเพิ่มความท้าทายได้ด้วยการเงยหน้ามองเพดานแล้วเอียงคอไปทางซ้ายหรือทางขวา แล้วค่อยดันกรามให้ตึงได้
ท่าจูบอากาศ จะคล้ายกับท่าแรกโดยเริ่มต้นที่การเงยหน้าขึ้น แล้วทำท่าจูบเหมือนกำลังจูบอากาศโดยยื่นปากออกไปให้มากที่สุดจนรู้สึกตึง ค้างไว้ 5 วินาที แล้วค่อยกลับสู่ท่าหน้าตรงปกติ ทำท่านี้ 15 ครั้ง
ท่าแลบลิ้น ไม่น่าเชื่อว่าการแลบลิ้นก็สามารถช่วยลดเหนียงได้ เริ่มต้นด้วยการหันหน้าตรงแล้วแลบลิ้นให้ยาวที่สุด จากนั้นพยายามใช้ลิ้นแตะจมูก ทำค้างไว้ 10 วินาที แล้วกลับสู่สภาพปกติ หรือสามารถเปลี่ยนจากการแลบลิ้นแตะจมูกเป็นแตะคางก็ได้เช่นกัน ซึ่งท่านี้จะช่วยยืดกล้ามเนื้อบริเวณใต้คางได้ ทำท่านี้ 10 ครั้ง
ท่ายืดคอ เริ่มต้นด้วยการเงยหน้าขึ้นให้ตึง แล้วใช้ลิ้นชนที่เพดานปาก ค้างไว้ 5-10 วินาที แล้วค่อยคลายท่ากลับมาหน้าตรงปกติ ทำท่านี้ 10 ครั้ง เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดไขมันส่วนเกินใต้คางได้แล้ว
ท่าหมุนคอติดอก เริ่มต้นจากการก้มหน้าให้คางติดกับอก แล้วหมุนคอไปทางซ้ายอย่างช้าๆ ค้างไว้ 5 วินาที แล้วค่อยหมุนคอไปทางขวา ค้างไว้อีก 5 วินาที ทำจำนวน 30 ครั้ง ท่านี้จะทำให้เกร็งและได้ออกแรงที่กล้ามเนื้อใต้คางซึ่งช่วยลดเหนียงได้
ท่าดันลิ้นแตะฟัน เริ่มต้นด้วยการมองตรงไปข้างหน้า อ้าปากกว้างๆ แล้วใช้ลิ้นดันไปที่ด้านในฟันล่าง จากนั้นหายใจเข้าอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ หายใจออกพร้อมกับออกเสียงอายาวๆ ทำแบบนี้ 1 นาที ก็จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อใต้คอได้
ท่าตบใต้คาง ใครที่ไม่อยากเกร็งเยอะๆ ลองใช้วิธีตบใต้คางเพื่อลดเหนียงได้ เพียงแค่หันหน้าตรงปกติ แล้วใช้หลังมือตบไปที่ใต้คางด้วยแรงที่พอดี ไม่ตบเบาหรือแรงจนเกินไป ตบอย่างต่อเนื่องประมาณ 30 วินาที เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เหนียงกระชับขึ้นได้แล้ว
ท่าบริหารด้วยลูกบอล ถ้าหากมีลูกบอลออกกำลังกายอยู่แล้ว สามารถใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยกระชับเหนียงได้ ด้วยการวางบอลออกกำลังกายไว้ที่พื้นแล้วใช้คางกดลูกบอลไว้ ทำท่านี้ทุกวัน วันละ 25 ครั้ง จะช่วยกระชับผิวใต้คางได้
ข้อดี - ข้อเสียของการออกกำลังกายยกกระชับหน้า ลดเหนียง
รู้ท่าออกกำลังกายบริหารเหนียงกันไปแล้ว จะเห็นได้ว่าเป็นท่าง่ายๆ ใครที่อยากยกกระชับหน้าก็สามารถเลือกใช้ท่าเหล่านี้ได้เลยตามความถนัดของตัวเอง แต่การออกกำลังกายบริหารเหนียงก็มีเรื่องที่ควรระวังอยู่เช่นกัน มาดูข้อดีและข้อเสียของการออกกำลังกายลดเหนียงกันได้เลย
ข้อดีการออกกำลังกายยกกระชับหน้า ลดเหนียง
เป็นท่าบริหารง่ายๆ ทำได้ไม่ยาก สามารถทำได้ทุกคน
ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ ทำให้ไม่มีค่าใช้จ่าย
นอกจากจะช่วยลดเหนียงให้กระชับแล้ว ยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อส่วนคอด้วย
ข้อเสียการออกกำลังกายยกกระชับหน้า ลดเหนียง
ถึงจะเป็นท่าบริหารง่ายๆ แต่ถ้าหากออกกำลังกายผิดวิธีหรือทำอย่างหักโหมมากเกินไปก็อาจเกิดการบาดเจ็บได้
เห็นผลได้ช้า ใช้เวลานาน ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
เหนียงที่เกิดจากพันธุกรรมอาจจะไม่เห็นผล
2. นวดหน้า และเลือกใช้ Skin Care กลุ่มยกกระชับ
การนวดหน้ายกกระชับก็เป็นอีกหนึ่งวิธีธรรมชาติที่ช่วยยกกระชับหน้าได้ เพราะมีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าแข็งแรงขึ้น ซึ่งสามารถใช้มือนวดหรือเลือกใช้อุปกรณ์สำหรับการนวดหน้าก็ได้เช่นกัน ยิ่งถ้าการนวดหน้าควบคู่ไปกับการใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดริ้วรอยและยกกระชับแล้วล่ะก็จะเห็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ผลิตภัณฑ์แนะนำสำหรับการนวดหน้า
อย่างที่บอกไปว่าการนวดหน้าควบคู่กับการใช้สกินแคร์ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ถ้าอย่างนั้นมาดูผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับการนวดหน้ากันดีกว่า
เครื่องนวดหน้ายกกระชับ แน่นอนว่าการนวดหน้าด้วยมือเปล่าสามารถทำได้ แต่การใช้เครื่องนวดหน้าจะช่วยผลักสกินแคร์ให้เข้าสู่ผิวได้มากกว่า อีกทั้งเครื่องนวดบางรุ่นยังมีฟังก์ชันที่ช่วยขัดผิวด้วย เรียกได้ว่านอกจากจะช่วยให้สกินแคร์ซึมเข้าสู่ผิวมากขึ้นแล้ว ยังช่วยทำความสะอาดล้ำลึกและสร้างความผ่อนคลายให้กับผิวหน้าได้ด้วย เครื่องนวดหน้าที่แนะนำก็จะเป็นของแบรนด์ดังอย่าง FOREO รุ่น LUNA 3 เพราะมีดีไซน์การนวดที่กว้างและล้ำลึก มีทั้งโหมดทำความสะอาดผิวหน้าและโหมดนวดกระชับใบหน้าด้วย ช่วยให้ใบหน้าผ่อนคลายและสุขภาพดีขึ้น
ครีมแอนตี้-เอจจิ้ง สกินแคร์ที่เหมาะกับการยกกระชับควรเลือกเน้นไปที่กลุ่มแอนตี้-เอจจิ้ง ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี และวิตามินเออย่างเรตินอล และส่วนผสมที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิวด้วย ขอแนะนำสกินแคร์ตัวเด่นอย่าง Origins A Perfect World Age-Defense Moisturizer With White Tea SPF 40 ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระจากชาขาว พร้อมช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ยาวนานขึ้น
ข้อดี-ข้อเสียของการนวดหน้ายกกระชับ
การยกกระชับหน้าด้วยการนวดนั้นมีข้อดีอยู่มากมาย แต่ก็มีข้อเสียหรือสิ่งที่ต้องระวังอยู่หลายอย่างด้วยเช่นกัน มาดูกันว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไรกันบ้าง
ข้อดีของการนวดหน้ายกกระชับ
ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและต่อมน้ำเหลือง
ช่วยให้สกินแคร์ซึมเข้าสู่ผิวมากขึ้น
ช่วยผลัดเซลล์ผิวและขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าที่ก่อให้เกิดสิวได้
ช่วยทำให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า
ช่วยป้องกันริ้วรอย ลดความหมองคล้ำ และกระชับใบหน้าได้
ข้อเสียของการนวดหน้ายกกระชับ
การนวดและทาครีมเป็นการยกกระชับแค่ภายนอกเท่านั้น อาจช่วยกระชับไม่ได้มาก
อาจมีสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้าหากไม่ล้างมือหรือทำความสะอาดเครื่องนวดหน้าให้ดี
การใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงใช้สกินแคร์ที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ใบหน้าเสียหายได้
3. ร้อยไหมลิฟต์กรอบหน้า ยกกระชับ
ถ้าพูดถึงวิธียกกระชับหน้าแล้ว หลายๆ คนคงนึกถึงการร้อยไหมอย่างแน่นอน เพราะถือเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ บนใบหน้าได้ ทั้งลดความหย่อนคล้อย จัดกรอบหน้าให้เข้ารูป และช่วยลดริ้วรอย ซึ่งการร้อยไหมนั้นมีหลักการทำงานโดยใช้เข็มนำเส้นไหมมาร้อยเข้าที่ชั้นใต้ผิวหนังบนใบหน้าเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนให้มาล้อมรอบที่ไหม หลังจากนั้นไหมจะสลายไป เหลือไว้เพียงแค่คอลลาเจนที่ผิวสร้างไว้เท่านั้น คอลลาเจนที่เหลืออยู่ก็จะเป็นตัวฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียบเนียน เต่งตึง และกระชับใบหน้าได้นั่นเอง
ข้อดี-ข้อเสียของการร้อยไหมยกกรอบหน้า
วิธีการร้อยไหมไม่เพียงแค่ยกกระชับหน้าแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูผิวในระดับชั้นใต้ผิวหนังด้วย แต่หลายๆ คนยังมีความกังวลเกี่ยวกับสารตกค้าง ความเจ็บปวด และผลข้างเคียงจากการร้อยไหม ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทำหัตถการ และแนะนำให้ศึกษาข้อดีข้อเสียของการร้อยไหมเสียก่อน ซึ่งจะมีดังนี้
ข้อดีของการร้อยไหมยกกรอบหน้า
ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ยกกระชับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น พร้อมช่วยให้ผิวเรียบเนียนและลดริ้วรอยอีกด้วย
เป็นการฟื้นฟูในระดับชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวสุขภาพดีจากภายใน จึงได้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดและอยู่ได้นาน
ใช้ไหมที่ละลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
บวมช้ำน้อย ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
ข้อเสียของการร้อยไหมยกกรอบหน้า
ต้องดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำการร้อยไหม โดยเฉพาะหลังร้อยไหมจะรู้สึกตึงและไม่สามารถขยับหน้ามากๆ ได้ประมาณ 2 สัปดาห์
ไม่เหมาะสำหรับคนกลัวเข็ม
ไหมแต่ละชนิดมีราคาแตกต่างกันไป ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงได้
หากทำหัตถการในสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีความเสี่ยงที่จะหน้าพังหรือเกิดผลข้างเคียงรุนแรง
4. โยคะยกกระชับผิว
พูดถึงโยคะแล้ว หลายๆ คน คงนึกถึงการยืดแขนยืดขาที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย แต่รู้หรือไม่ว่าใบหน้าก็สามารถทำโยคะได้เช่นกัน ซึ่งจะแตกต่างจากการออกกำลังกายบริหารเหนียงตรงที่โยคะใบหน้าจะเน้นทำเพื่อความผ่อนคลาย โดยอาศัยการควบคุมลมหายใจร่วมด้วย มาดูตัวอย่างท่าที่ใช้สำหรับการทำโยคะเพื่อยกกระชับผิวกันได้เลย
ท่าหายใจคลื่นทะเล เริ่มต้นด้วยการหายใจเข้าลึกๆ ทางจมูก จากนั้นหายใจออกทางปากร่วมกับการออกเสียงอา ให้เกิดการสั่นสะเทือนที่คอ เมื่อเริ่มชินแล้ว ให้เปลี่ยนจากการหายใจออกทางปากเป็นหายใจออกทางจมูก โดยทำให้มีเสียงสั่นเบาๆ ท่านี้จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกในทางเดินหายใจได้ ซึ่งช่วยให้ผิวหน้าสดใสขึ้น
ท่าลมหายใจหน้าใส เริ่มต้นด้วยการหายใจเข้าลึกๆ ทางจมูก จากนั้นหายใจออกทางปากพร้อมแขม่วท้องเป็นจังหวะ 3 ครั้ง เมื่อชินแล้ว ให้ฝึกหายใจเข้าลึกๆ แล้วหายใจออกยาวๆ จากนั้นหายใจเข้าทางจมูกครึ่งเดียว แล้วหายใจออกทางจมูกพร้อมแขม่วท้องเป็นจังหวะ 3 ครั้ง ท่านี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดได้ดีขึ้น
ท่าเป่าลูกโป่ง เริ่มต้นด้วยการสูดอากาศเข้าแล้วเป่าลมออกเหมือนเป่าลูกโป่ง หรือสูดลมเข้าแล้วทำแก้มพองโตด้วยอากาศ ทำที่แก้มซ้ายขวาสลับกันไป ท่านี้จะช่วยกระชับแก้มได้
ข้อดี-ข้อเสียของการทำ โยคะยกกระชับผิว
โยคะใบหน้ามีท่าให้เลือกทำมากมายตามความสะดวกของแต่ละคน อีกทั้งยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง ทั้งช่วยยกกระชับผิว ขจัดสิ่งสกปรกในร่างกาย สร้างความผ่อนคลาย กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แต่โยคะก็มีข้อเสียอยู่ด้วยเหมือนกัน มาดูกันว่าข้อดีข้อเสียมีอะไรกันบ้าง
ข้อดีของการทำ โยคะยกกระชับผิว
เป็นวิธียกกระชับแบบธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์หรือตัวยา
ช่วยฝึกลมหายใจ ได้ทั้งความผ่อนคลายและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
เสริมสร้างความแข็งแรงของใบหน้าได้จากภายใน
ไม่มีค่าใช้จ่าย
ข้อเสียของการทำ โยคะยกกระชับผิว
เหมือนกับการออกกำลังกายที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
เห็นผลช้า ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล
หากทำท่าผิดวิธีอาจไม่เห็นผลหรืออาจเกิดการบาดเจ็บได้
5. ทำหัตถการกลุ่ม ฉีดสารกระตุ้น, Mesofat และ Hifu
การฉีดสารกระตุ้น Type A คือ สารสกัดจากแบคทีเรียที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท โดยจะฉีดเข้าไปตามจุดบนใบหน้า ส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว เมื่อขยับกล้ามเนื้อน้อยลงจะทำให้ผิวหนังเต่งตึงและกระชับขึ้น พร้อมช่วยลดริ้วรอยและรอยย่นบนใบหน้าด้วย
การยกกระชับหน้าด้วยการฉีดสารกระตุ้น
Mesofat คือ การฉีดสารที่ช่วยสลายไขมันลงไปในชั้นไขมัน โดยสารที่ฉีดเข้าไปจะทำให้ไขมันแตกตัว แลัวไขมันนั้นจะขับออกจากทางระบบขับถ่าย เป็นการลดไขมันเฉพาะจุด โดยส่วนใหญ่จะฉีด Mesofat เพื่อลดแก้มและลดเหนียง ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงและกระชับขึ้น
ซึ่ง Mesofat ก็เป็นวิธียกกระชับหน้าที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะไม่ว่าใครก็อยากจะลดไขมันส่วนเกินกันทั้งนั้น แต่วิธีการนี้จะดีอย่างที่ว่าจริงๆ หรือไม่ ลองมาศึกษาข้อดีข้อเสียของ Mesofat กันได้เลย
ข้อดีของการยกกระชับหน้าด้วย Mesofat
ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน ทำให้หน้าเข้ารูปสมสัดส่วนได้อย่างรวดเร็ว
ใช้เวลาการฉีดไม่นาน
เห็นผลลัพธ์ได้ไว
บวมช้ำน้อย พักฟื้นไม่นาน หรือไม่ต้องพักฟื้นเลย
ราคาไม่แพง
ข้อเสียของการยกกระชับหน้าด้วย Mesofat
ไม่แนะนำให้ทำในบริเวณที่มีไขมันมาก หรือในคนที่มีไขมันมาก เพราะทำให้ต้องใช้ยาในปริมาณมาก
Mesofat หลายตัวยังไม่ได้รับการรับรองจาก อย. และยังไม่มีการวิจัยรับรองว่าสามารถกำจัดไขมันได้จริง
ข้อดี-ข้อเสียของการยกกระชับหน้าด้วยการฉีดสาร
หลายๆ คนคงเคยได้ยินเรื่องการฉีดสารกระตุ้น กันมาบ้างแล้ว เพราะเป็นวิธียกกระชับที่คนนิยมทำสูงมาก ถึงขั้นมีการผลิตสารกระตุ้น ปลอม และมีหมอเถื่อนที่ฉีดสารกระตุ้น ให้โดยไม่มีใบอนุญาต ทำให้คนส่วนใหญ่มีความคิดเชิงลบกับการฉีดสารกระตุ้น แต่จริงๆแล้วการฉีดสารกระตุ้น ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด ลองมาดูข้อดีและข้อเสียของการฉีดสารกระตุ้น กันเลยดีกว่า
ข้อดีของการยกกระชับหน้าด้วยการฉีดสาร
ช่วยทั้งยกกระชับ ปรับกรอบหน้า ลดกราม ลดริ้วรอย หรือใช้ในการรักษาไมเกรนได้
ใช้เวลาฉีดไม่นาน และเห็นผลไว
ราคาไม่แพง
บวมช้ำน้อย พักฟื้นไม่นาน
ข้อเสียของการยกกระชับหน้าด้วยการฉีดสาร
เห็นผลลัพธ์ได้ไม่ชัดเจนเท่ากับการร้อยไหม จึงเหมาะกับคนที่ต้องการปรับหน้าเพียงเล็กน้อย
การฉีดสารกระตุ้น อยู่ได้ไม่นาน ต้องฉีดเติมเรื่อยๆ
ไม่เหมาะกับคนกลัวเข็ม
หากแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญหรือการฉีดสารกระตุ้น คุณภาพไม่ดี อาจทำให้หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยวได้
ติดตามบทความเกี่ยวกับยกกระชับหน้า
การยกกระชับหน้าด้วย Hifu
Hifu หรือ High Intensity Focused Ultrasound เป็นวิธียกกระชับหน้าด้วยการใช้เครื่องมือที่ส่งพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงลงไปยังชั้นผิวหนัง SMAS ส่งผลให้ผิวหนังชั้นไขมันและชั้น SMAS ตึงขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้เป็นอย่างดี
สังเกตได้ว่าการทำหัตถการกลุ่มฉีดสารกระตุ้น, Mesofat และ Hifu จะมีความคล้ายคลึงกันตรงที่ไม่ต้องเตรียมตัวมาก สามารถทำได้เลยและใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งยังใช้เวลาพักฟื้นน้อย เรียกได้ว่าแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็เปลี่ยนใบหน้าหย่อนคล้อยให้กระชับขึ้นได้ ดังนั้นหัตถการกลุ่มนี้จึงได้รับความนิยมอย่างสูง
ข้อดี-ข้อเสียของการยกกระชับหน้าด้วย Hifu
Hifu ก็เป็นวิธียกกระชับหน้าที่ได้รับความนิยมสูงเช่นกัน เพราะไม่ต้องใช้เข็มหรือต้องผ่าตัด ทำให้หลาย คนเลือกใช้วิธีนี้ แต่ก่อนจะทำนั้น ชวนมาดูข้อดีและข้อเสียของการใช้ Hifu กันก่อนดีกว่า
ข้อดีของการยกกระชับหน้าด้วย Hifu
เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย หรือร่องต่างๆ ที่ไม่มาก
คนกลัวเข็มหรือกลัวการผ่าตัดสามารถใช้วิธีนี้แทนได้
สามารถทำได้บ่อยตามที่ต้องการ
ใช้เวลาทำไม่นาน และเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
ข้อเสียของการยกกระชับหน้าด้วย Hifu
ขณะทำ Hifu อาจมีความรู้สึกเจ็บ หรือปวด ในชั้นผิวหนัง
ในบางรายอาจมีผลข้างเคียง เช่น เกิดรอยบวมแดง มีผื่นแดง หรือเมื่อยตึงที่ใบหน้า
ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาด้านผิวหนัง เช่น มีแผลคีลอยด์ มีแผลเปิด หรือมีการฝังโลหะในผิวหนัง
6. การทำ Thermage ยกกระชับหน้า
Thermage คือการใช้เครื่องมือส่งคลื่นวิทยุแบบขั้วเดียวเข้าไปยังผิวหนังชั้น SMAS ทำให้เกิดการหดตัวของชั้นผิว ลดเนื้อไขมัน พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวจึงเต่งตึงขึ้น กลับมากระชับได้อีกครั้ง ซึ่งคล้ายกับการทำ Hifu นั่นเอง แต่แตกต่างกันตรงที่ขนาดของจุดโฟกัส โดย Thermage จะส่งพลังงานเป็นก้อนที่ใหญ่กว่า แต่จะส่งพลังงานแบบไร้ทิศทาง ส่งผลให้เกิดการหดตัวของผิวหนังได้อย่างครอบคลุมทั่วทุกจุดบนใบหน้าได้มากกว่า
ข้อดี-ข้อเสียของการทำ Thermage ยกกระชับหน้า
แม้การทำ Thermage จะคล้ายกับการทำ Hifu แต่ก็มีข้อดีและข้อเสียที่ไม่เหมือนกัน มาดูกันว่าข้อดีและข้อเสียของการยกกระชับหน้าด้วย Thermage นั้นมีอะไรบ้าง
ข้อดีของการยกกระชับหน้าด้วย Thermage
โดดเด่นในเรื่องการลดเนื้อไขมัน ลดริ้วรอย ลดรูขุมขน และแก้ปัญหาผิวเหี่ยวย่นได้ในระยะยาว
ใช้เวลาทำไม่นาน สะดวกรวดเร็ว
ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
Thermage เป็นวิธีการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง
ข้อเสียของการยกกระชับหน้าด้วย Thermage
ขณะทำ Thermage จะมีอาการเจ็บ ปวดตึงๆ มากกว่าการทำ Hifu
หลังทำเสร็จอาจเกิดรอยแดงหรือรอยนูน ซึ่งสามารถหายเองได้หลังจากนั้น 1-2 ชั่วโมง
อาจเกิดผิวไหม้ หรือใบหน้าเบี้ยวจากการที่ใช้ครื่องคุณภาพต่ำ หรือแพทย์กำหนดคลื่นพลังงานไม่เหมาะสม
7. ยกกระชับหน้า ด้วยการผ่าตัดดึงหน้า
ดึงหน้า คือ หัตถการที่ช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อและไขมันบริเวณใบหน้า ซึ่งช่วยแก้ปัญหาการหย่อนคล้อยของผิวหนังตามวัยให้กลับไปยังตำแหน่งเดิมที่เหมาะสม โดยการดึงหน้าจะทำการตัดผิวหนังที่มีการหย่อนคล้อยออก แล้วเก็บยกผิวหนังขึ้นทั้งชั้นผิวหนัง และชั้นกล้ามเนื้อ SMAS หรือกล้ามเนื้อบางๆ ชั้นใต้ผิวหนังที่ใช้ในการแสดงอารมณ์ให้กระชับมากขึ้น และเริ่มดึงจากส่วนบนอย่างหน้าผาก ใบหน้าส่วนบน หางตา แก้ม แน่นอนว่า การดึงหน้าเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่าการทำหัตถการอื่นๆ
การผ่าตัดดึงหน้า ยกกระชับหน้า มีกี่เทคนิค
เทคนิคดึงหน้าบริเวณชั้นกล้ามเนื้อ
เทคนิคการดึงหน้าบริเวณชั้นกล้ามเนื้อ จะเป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ซับซ้อนใช้ความชำนาญและความละเอียดของแพทย์สูง เพราะเป็นการดึงหน้าที่ผิวหนังชั้น SMAS (Superficial muscular aponeurotic system) ร่วมด้วย ซึ่งการผ่าตัดจากบริเวณชั้นกล้ามเนื้อเช่นนี้จะให้ผลดีกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบชั้นตื้น หรือเทคนิคการทำให้ใบหน้าดูกระชับอื่นๆ เพราะวิธีการดึงหน้าบริเวณชั้นกล้ามเนื้อจะเป็นการเลาะและทำการดึงในชั้นลึกที่อยู่ใต้ชั้นกล้ามเนื้อชั้นตื้นของใบหน้า (SMAS Layer) พร้อมทำการผ่าตัดเปลี่ยน จุดเกาะเอ็นยึดใบหน้าใหม่ให้กระชับมากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูกระชับ ลดแรงตึงของแผล ซ่อนแผลได้สวย เสี่ยงเกิดคีลอยด์น้อย ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติ และผลลัพธ์ยังอยู่ได้นานหลายปีเลยทีเดียว
ร้อยไหมดึงหน้า
การร้อยไหมดึงหน้าจะเป็นการยกกระชับใบหน้าใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยง สอดลงในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูกระชับ และลดปัญหาเรื่องอาการหย่อนคล้อยได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งการร้อยไหมดึงหน้าหลังทำจะเห็นผลได้ทันที แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ไม่นานเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้า เนื่องจากผิวมีโอกาสหลุดออกจากเส้นไหมที่เกี่ยวไว้ได้ก่อน และในคนที่อายุเยอะๆ ใช้วิธีนี้ผลที่ได้จะอยู่ได้สั้นลง เพราะในผิวขาด elastin นั่นเอง
เลเซอร์ยกกระชับ
การเลเซอร์ยกกระชับหน้าเป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) เพื่อยิงลงไปยังจุดเฉพาะต่างๆ ใต้ชั้นผิว ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูผิวในระดับเซลล์ผิว ทำให้ผิวสร้างคอลลาเจน ใบหน้าจึงดูยกกระชับ เรียว และมีผิวที่ดูอ่อนเยาว์ แต่ควรทำปีละ 1-2 ครั้ง จึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ว่าอยู่ได้นานขึ้น
ทำไมต้องดึงหน้าที่เกาหลี
เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ปัญหาที่ตามมาก็มักจะเป็นเรื่องของความหย่อนคล้อยของผิวหนังที่เกิดจากร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงทำให้ความยืดหยุ่นของผิวมีคุณภาพลดลง ผิวจึงมีอาการหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ดังนั้น การแก้ปัญหาเรื่องความเหี่ยวย่น ไม่กระชับ จนทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ รวมถึงเกิดปัญหาบางอย่าง เช่น การที่ผิวหนังทำให้รบกวนการมองเห็น ฯลฯ ก็จะต้องใช้วิธีการผ่าตัดดึงหน้าเข้ามาช่วย เพราะเป็นการแก้ไขปัญหานี้ได้ในระยะยาวกว่าการทำหัตถการอื่นๆ อีกทั้ง ช่วยยกกระชับใบหน้าได้ทั้งหมด หรือจะเลือกทำเฉพาะจุดก็ได้เช่นเดียวกัน
ศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า ดึงหน้าเกาหลี ในยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว การทำศัลยกรรมเพื่อปรับเปลี่ยน หรือปรับแต่งโครงหน้าและร่างกาย กลายเป็นทางเลือกที่เป็นที่นิยมในสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะการศัลยกรรมที่เกาหลี เพราะเป็นหนึ่งในตัวเลือกการทำศัลยกรรมที่ปลอดภัยและมีความเชี่ยวชาญสูง ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลก จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เกาหลีเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการการรักษา และทำการศัลยกรรมที่มีคุณภาพ
การศัลยกรรมของเกาหลีมีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นที่นิยม และได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก ดังนี้
1. ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
โรงพยาบาลศัลยกรรมเกาหลี มีแพทย์และทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการทำศัลยกรรม ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลด้วยมาตรฐานที่สูง และมีความปลอดภัยมากที่สุด ความรู้และทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมยังช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการทำศัลยกรรมที่ต้องการ
2. เทคโนโลยีและนวัตกรรม
เกาหลีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมทางการแพทย์และการศัลยกรรมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเรื่องเครื่องมือศัลยกรรมและเทคนิคต่างๆซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพเฉพาะจุดในหลาย ๆ ด้าน นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ในการพัฒนาวิธีการรักษาให้มีความทันสมัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ความปลอดภัย
โรงพยาบาลและแผนกศัลยกรรมในเกาหลีมักมีการตรวจสอบคุณภาพ และการประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการทำศัลยกรรมมีคุณภาพและปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนด อีกทั้ง ทีมแพทย์ในเกาหลีได้รับการศึกษาพร้อมทั้งการฝึกอบรมและวิจัยอย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะพัฒนาความรู้ทักษะทางการแพทย์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความเชี่ยวชาญในการดำเนินการทำศัลยกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. กระบวนการที่หลากหลาย
โรงพยาบาลศัลยกรรมเกาหลี มีการเสนอหลากหลายทางเลือกของกระบวนการทำศัลยกรรมที่สามารถรองรับความต้องการ และความพึงพอใจของผู้รับบริการได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมความงามของใบหน้า การยกกระชับ การผ่าตัด หรือการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ที่เกาหลีมีบริการต่าง ๆ พร้อมดูแลให้คำปรึกษาครบวงจร
5. ความงามแบบธรรมชาติ
การศัลยกรรมแบบเกาหลี มักเน้นไปที่ความเป็นธรรมชาติ ไม่หวือหวา ทำให้ผลลัพธ์ดูมีความสวยงามแบบเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ และไม่แสดงให้เห็นถึงการทำศัลยกรรมอย่างชัดเจน เช่น เสริมจมูกเกาหลี ทำตาสองชั้น เติมไขมันหน้าเด็ก
6. ความสะดวกสบาย
เกาหลีมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายพร้อมให้บริการ ซึ่งช่วยให้ผู้ที่มาทำศัลยกรรมมีประสบการณ์ที่น่าจดจำ และรู้สึกสะดวกสบายในการใช้ชีวิต นอกจากนี้ ยังมีโรงแรม รวมถึงสถานที่ที่มีการบริการด้านการแพทย์ในการฟื้นฟูหลังการผ่าตัดที่ดีอีกด้วย
7. บริการดูแลหลังการผ่าตัดที่ครบครัน
โรงพยาบาลและคลินิกในเกาหลี มีระบบการดูแลผู้ป่วยหลังการผ่าตัดที่มีมาตรฐานสูง ทำให้ผู้ที่ทำการรักษามีความมั่นใจและสบายใจในการพักฟื้น ซึ่งหลังออกจากโรงพยาบาลหรือคลินิก ก็ยังคงให้ความสำคัญต่อเนื่องผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การติดตามผลการรักษาผ่านทางโทรศัพท์ ช่องทางออนไลน์ หรือการนัดหมายเพื่อติดตามอาการที่โรงพยาบาล
ศัลยกรรมเกาหลีได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกด้วยบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ และปลอดภัยในการเสริมความงามของใบหน้า หรือร่างกายตามความต้องการ ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของของแต่ละบุคคล ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และความเชี่ยวชาญจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ศัลยกรรมที่เกาหลีจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์อย่างมั่นใจและปลอดภัย
สรุป
สำหรับท่านใดที่อยากยกกระชับหน้าให้เข้ารูปมากขึ้น แนะนำให้ศึกษาวิธียกกระชับหลายๆ รูปแบบ รวมถึงพิจารณาข้อดีข้อเสียของแต่ละรูปแบบ และควรปรึกษาแพทย์ ให้แพทย์ประเมินสภาพผิวและวิเคราะห์ปัญหา เพื่อให้ได้วิธียกกระชับที่ให้ประสิทธิภาพสูงที่สุด หากสนใจวิธีกระชับใบหน้าที่ประเทศเกาหลี Nabila Surgery (เอเจนซี่ศัลยกรรม นาบิลา เซอเจอรี่) พร้อมให้บริการและมีแพทย์ประสบการณ์สูงที่จะวิเคราะห์ปัญหาผิว แก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำและตรงจุด พร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีคุณภาพ มาตรฐานระดับสากล
สนใจศัลยกรรมเกาหลี ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ID : @nabila
Face Book : Nabila Surgery
Instagram : nabilasurgery
Comments